เวียดนามเป็นตลาดสำคัญของการค้านอแรด ด้วยมีความเชื่อว่า มีสรรพคุณทางยาและเป็นที่ต้องการสูงในหมู่คนชนชั้นกลางที่กำลังขยายตัว ประเทศคอมมิวนิสต์แห่งนี้กลายเป็นจุดขนส่งยอดนิยมสำหรับผลิตภัณฑ์จากสัตว์ผิดกฎหมาย ที่มักมีต้นทางมาจากแอฟริกา ผ่านเวียดนามไปยังที่อื่นๆ ในภูมิภาคเอเชีย

การจับยึดอวัยวะสัตว์ที่มีมูลค่าสูงครั้งล่าสุดนี้ เกิดขึ้นที่สนามบินนานาชาติโนยบ่าย ในกรุงฮานอย โดยเจ้าหน้าที่พบนอแรดซ่อนอยู่ในกระเป๋าเดินทางบนเที่ยวบินจากกรุงไนโรบี ตามประกาศของกรมตำรวจฮานอย

“หลังการสแกนและตรวจเช็ก เจ้าหน้าที่ศุลกากรพบกระเป๋าเดินทาง 2 ใบ น้ำหนัก 57 กิโลกรัม และ 61 กิโลกรัม ซึ่งเต็มไปด้วยนอแรด” รายงานของหนังสือพิมพ์ออนไลน์ฉบับหนึ่งระบุ

ภาพถ่ายหลายภาพที่เผยแพร่ออกมาเผยให้เห็นนอแรดจำนวนมากอัดแน่นอยู่ในกระเป๋าเดินทาง และวางกองอยู่บนโต๊ะ

นักอนุรักษ์เตือนว่า ความต้องการนอแรดในจีนและเวียดนาม ที่เชื่อกันอย่างผิดๆ ว่า สามารถช่วยรักษาโรคมะเร็งและอาการเมาค้างได้ กำลังทำให้จำนวนประชากรแรดแอฟริกันลดลงเรื่อยๆ

รายงานระบุว่า นอแรดเพียง 1 กิโลกรัม อาจมีมูลค่ามากถึง 60,000 ดอลลาร์ ในตลาดทั่วไป

เมื่อเดือน พ.ย. เจ้าชายวิลเลียม แห่งอังกฤษ ได้เสด็จเยือนกรุงฮานอยเพื่อร่วมการประชุมนานาชาติว่าด้วยเรื่องการลักลอบค้าสัตว์ป่า ทรงมีคำวิงวอนเรียกร้องให้ยุติการลอบค้าสัตว์ป่าเพื่อรักษาสายพันธุ์สัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ เช่น แรด ช้าง และตัวนิ่ม ขณะที่มูลนิธิแรดระหว่างประเทศระบุว่า ประชากรแรดที่อาศัยอยู่ในป่ามีจำนวนลดลงเหลือเพียง 29,000 ตัว จาก 500,000 ตัว เมื่อช่วงต้นศตวรรษที่ 20

ที่มา : http://manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9600000026480