สัตว์ป่า 10 สปีชี่ส์ในโลก ที่อาจสูญพันธุ์ในอีก 10 ปี |
![]() |
![]() |
![]() |
Written by Administrator |
Wednesday, 16 December 2009 08:31 |
สัตว์ป่า 10 สปีชี่ส์ในโลก ที่อาจสูญพันธุ์ในอีก 10 ปี ในนิเวศวิทยาและ ชีววิทยา ในคำนิยาม “การสูญพันธุ์” หมายถึงการสิ้นสุดหรือการตายของการดำรงอยู่ของสายพันธุ์หรือสปีชีส์ของสิ่งมีชีวิต อัตราการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในช่วงเวลาที่ผ่านมา เกิดขึ้นตามสภาพการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติโดยเฉลี่ยประมาณปีละ 1 สปีชีส์ แต่ว่าในปัจจุบันการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตตามสภาพการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมนั้นเกิดขึ้นรวดเร็วขึ้นหลายเท่าของอัตราการสูญพันธุ์ในอดีต ประมาณ 100-1000 เท่า เมื่อเทียบกับการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตในอดีตที่เกิดจากธรรมชาติที่ผ่านมา ปัญหาดังกล่าวล้วนเกิดจากฝีมือมนุษย์ทั้งสิ้น เมื่อมองเฉพาะสิ่งมีชีวิตที่เป็นสัตว์ (อาณาจักร Animalia) พบว่า ปัจจุบันในโลก มีรายงานว่า มีสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ ประมาณ 3,071 สายพันธุ์ ตามรายงานจากสหพันธ์การอนุรักษ์ ของโลก (World Conservation Union) ในนามที่นานาชาติรู้จักคือ The International Union for the Conservation of Nature and Natural Resources (IUCN) ประกอบด้วยความร่วมมือทั้งหมด 83 ประเทศ องค์กรอิสระ จาก 800 หน่วยงาน และ นักวิทยาศาสตร์-ผู้เชี่ยวชาญประมาณ 10,000 คน ได้มีการประเมินและมีรายงานการศึกษาเกี่ยวกับสัตว์ว่า จะมีสัตว์ป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ในระดับที่อยู่ในระดับขั้นวิกฤตในโลกรวม ทั้งสิ้น 10 ชนิด และในอีก 10 ปีข้างหน้า ถ้าเราไม่เข้าไปช่วยเหลือพวกมัน สัตว์ดังกล่าวอาจจะสูญพันธุ์ไปอย่างแน่นอน สัตว์ป่า 10 สปีชี่ส์ในโลก ที่อาจสูญพันธุ์ในอีก 10 ปี มีดังนี้
แหล่งที่อยู่บนหมู่เกาะสุมาตรา ใน ประเทศ อินโดนีเซีย มีรายงานไม่เกิน 7,500 ตัว ผลเนื่องมาจาก การบุกรุกป่าทำลายป่า การเผาป่า และการตัดไม้ และทำการเกษตร อย่างผิดกฎหมาย ในปี 2002 ได้มีการขึ้นบัญชี ของ the World Conservation Union จัดให้เป็นสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ (endangered) และมีรายงานประมาณของพวกมันแค่ 3,500 ตัวเท่านั้น วอมแบ็ทจมูกขน พบที่ รัฐนิวเซาล์แวล วิทอเรีย และ ควีนแลนด์ ของประเทศ ออสเตเลีย เมื่อ 100 ปีที่แล้ว แต่ปัจจุบัน พบเพียงแค่ 100 ตัวที่มีชีวิตรอดในพื้นที่เล็กที่ ควีนแลนด์ ซึ่งเป็นพื้นที่รักษาสัตว์ป่า สถานภาพ ณ ปัจจุบันวอมแบ็ทจมูกขน (สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมคล้ายหมี) ถูกขึ้นบัญชีว่าเป็นสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ (endangered) ของ the Australian Species Profile and Threats Database (SPRAT) และ The International Union for the Conservation of Nature and Natural Resources (IUCN) ในประเทศได้ก็ได้จัดให้เป็น ชนิดสัตว์ป่าและซากของสัตว์ป่าที่ห้ามนำเข้าหรือส่งออก ตาม ประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในบัญชีอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ ด้วย อูฐซึ่งมีโหนกบนหลัง 2 โหนก เรียกง่ายๆว่า อูฐแบกเทรียน พบอยู่เฉพาะในทวีปเอเชียตอนกลาง และ อยู่ในเขตหนาวของประเทศจีนและมองโกเลีย กินพืชเป็นอาหาร ไม่เหมือนอูฐที่อยู่ในอัฟริกาหรือในอาราเบียที่อาศัยในทะเลทราย พบ อูฐแบกเทรียนในปัจจุบันที่จีนเพียง 650 ตัว และ ในมองโกเลียเพียง 350 ตัวเท่านั้น สถานภาพ IUCN ได้ จัด เป็น หนึ่งในสัตว์ป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ ในอีก 10 ปีข้างหน้า กาเซลล์ดามา อาศัยในแอฟริกา และทะเลทรายซาฮาร่า เพื่อมาหาอาหารในฤดูแล้ง มีการลอบทำลายและ ทำลายแหล่งที่อยู่อาศัยพวกมันทำให้จำนวนลดลงอย่างมาก จำนวนลดลงถึง 80 เปอร์เซนต์ในช่วง 10ปี ที่ผ่านมา การสำรวจล่าสุดพบว่าประชากรมีไม่เกิน 100 ตัวทั่วแอฟริกาเหนือ อีกทั้งถูกล่าจากมนุษย์ด้วยอาวุธด้วย 6. ชื่อสามัญ Seychelles Sheath-Tailed Bat/ ค้างคาวหางโผล่ เซชิลเลนสิส อาศัยอยู่ในซอกหินในถ้ำบนหมู่เกาะเซชิลเลส ทางเหนือของมหาสมุทรอินเดียของ มาดากัสกา ปัจจุบันน่าจะมีประมาณ 50-100 ตัว และเชื่อว่า มันใกล้จะสูญพันธุ์ในไม่ช้า IUCN ได้ จัด เป็น หนึ่งในสัตว์ป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ เนื่องจากการตัดไม้ทำลายป่าก่อให้เกิดภาวะอันไม่พึงประสงค์และเป็นการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ นอกเหนือจากการทำไม้ กิจกรรมการพัฒนาในหลายรูปแบบ 7. ชื่อสามัญ Chinese Alligator/อัลลิเกเตอร์จีน เป็นชนิดสัตว์ป่าและซากของสัตว์ป่าที่ห้ามนำเข้าหรือส่งออก เป็นหนึ่งใน 2 ของจระเข้อัลลิเกเตอร์ มีถิ่นกำเนิดจากประเทศจีน ตัวเล็กกว่า จระเข้อัลลิเกเตอร์อเมริกา ความยาวประมาณ 1.5 เมตร น้ำหนักมากว่า 40 กิโลกรัม อาศัยในช่องที่ขุด ที่ลุ่มน้ำแยงซี มีรายงานแค่ 150 -200 ตัวในปัจจุบัน 8. ชื่อสามัญ Black Rhinoceros /แรดดำ แรดในธรรมชาติจึงอยู่ในสภาวะอันตรายต่อการสูญพันธุ์ ปัจจุบันแบ่งเป็น 5 ชนิด คือมี 2 ชนิดจากแถบแอฟริกา คือ แรดขาวกับแรดดำ และมีอยู่ 3 ชนิดจากแถบเอเชีย คือ แรดอินเดีย แรดชวา และ แรดสองนอ หรือ กระซู่ ข้อแตกต่างที่น่าสนใจระหว่าง แรดขาวและแรดดำคือมันมีขนาดเล็กกว่าแรดขาวและ ลักษณะปาก แรดขาวจะมีปากป้านเป็นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส ปากกว้างซึ่งเหมาะอย่างยิ่งต่อการแทะเล็มหญ้า ในทุ่งหญ้า ส่วนแรดดำ มีปากเรียวและมีจงอยปากเล็ก ๆ คอยเกี่ยวหรือเหนี่ยวรั้งใบไม้ตามต้นไม้มากินเป็นอาหาร และจัดเป็นสัตว์ที่พบตัวยาก สาเหตุที่ทำให้แรดดำสูญพันธุ์ไปจากแผ่นดินใหญ่ คือการถูกล่าเพื่อเอานอ และส่วนต่าง ๆ เช่นหนัง เลือดและกระดูก ซึ่งมีราคาสูงมาก เนื่องจากความเชื่อที่ว่า มีสรรพคุณเป็นยาบำรุงร่างกาย และเพิ่มประสิทธิภาพทางเพศได้ แต่จากการตรวจวิเคราะห์ทางการแพทย์ไม่พบว่ามีสรรพคุณดังกล่าว ทามารินลายพบที่พื้นที่เล็กทางตะวันตกเฉียงของบราซิล อาศัยบนต้นไม้ ใบหน้าปราศขน หูมีสีตั้งแต่สีเทา จนดำ ลำตัวยาวประมาณ 208 – 283 มิลิเมตร หางยาว 335 -420 มิลิเมตร น้ำหนักตัวทั้งตัวผู้และตัวเมีย ประมาณ 430 กรัม พวกมันถูกรุกรานโดยคน โดย การล่า และการบุกรุกพื้นที่ป่า 10. ชื่อสามัญ: Leatherback Turtle/ เต่ามะเฟือง เป็นเต่าที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ในโลก อาศัยในมหาสมุทร แอตแลนทิก แปซิฟิก และ อินเดีย และพวกมัน การเดินทางข้ามไปมาเพื่อหาอาหารและทำรัง กระดองมีลักษณะเป็นหนังหนา นิ่ม ไม่เป็นเกล็ดแข็ง เป็น รูปทรงยาวรี มีแนวสันนูนตามแนวยาวคล้ายผลมะเฟือง สันบนหลังมี 6 แถว ยาวตลอดลำตัวด้านท้องมี 5 แถว ลำตัวมีสีดำจุดขาวกินพืช แมงกะพรุน และสัตว์น้ำขนาดเล็กเป็นอาหาร |
Last Updated on Wednesday, 16 December 2009 09:03 |